โรคสตีเวนส์ จอห์นสัน เรียนรู้โรคแพ้ยาร้ายแรงที่ไม่มีแพทย์คนไหนอยากเจอ
5 ปีที่แล้ว
ภาวะโรคสตีเวนส์ จอห์นสัน ( Steven Johnson Syndrome ) หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า “ SJS ” เป็นโรคแพ้ยาชนิดรุนแรงที่มีผลมาจากปฏิกิริยาภูมิคุ้มกันของร่างกายตอบสนองต่อยาบางชนิด หรือการติดเชื้อ ทำให้เกิดความผิดปกติของผิวหนัง และเยื่อบุผิวจนอักเสบรุนแรงสาหัสทั่วร่างกาย อาการจะมีผื่นแดงขึ้นจนรู้สึกเจ็บปวดลุกลามกลายเป็นแผลพุพอง และส่งผลให้เกิดการตายของเซลล์เยื่อบุผิวทำให้ลอกออกจากชั้นหนัง ซึ่งโรคนี้ถูกค้นพบโดยนายแพทย์ Alberts Steven และนายแพทย์ Frank Johnson ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1922 โดยอุบัติการณ์ของสตีเวนส์ จอห์นสันพบได้ประมาณ 2.6 - 7.1 รายต่อประชากร 1 ล้านคน เมื่อเป็นแล้วมีอัตราการตายสูงถึง 25-80%
อาการของโรคสตีเวนส์ จอห์นสัน ในระยะช่วงแรกผู้ป่วยอาจมีไข้คล้ายไข้หวัดใหญ่ จากนั้นไม่เกินภายใน 2 สัปดาห์ ความผิดปกติทางผิวหนังจึงเริ่มปรากฏ เช่น เกิดผื่นแดงสีเข้มไม่มีอาการคัน หรือตุ่มน้ำพุพองขึ้นที่ผิวหนัง และเยื่อบุผิว จากนั้นค่อย ๆ ลุกลามเป็นแผลพุพอง และเพิ่มจำนวนขึ้นเป็นทวีคูณตามบริเวณผิวหนัง ส่วนเยื่อเมือกบุผิวจะเกิดเป็นแผลพุพองบริเวณตา ริมฝีปาก ช่องปาก และอวัยวะเพศ หรือทวารหนัก จากนั้นผิวหนังชั้นนอกจะค่อย ๆ หลุดลอกออก และเผยให้เห็นผิวด้านในที่มีลักษณะคล้ายกับผิวไหม้ โรคสตีเวนส์ จอห์นสันอาจเกิดภาวะแทรกซ้อนได้ เช่น ผิวหนังถูกทำลายถาวร , ติดเชื้อในกระแสเลือด , ตาอักเสบ หรือตาบอด , มีปัญหาอวัยวะสืบพันธุ์ หรือปอดทำงานผิดปกติได้ เป็นต้น
สาเหตุของโรคสตีเวนส์ จอห์นสันในปัจจุบันยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน มีผู้ป่วยโรคนี้ถึง 25-50% ที่ไม่สามารถหาสาเหตุได้ แต่ยาเหล่านี้ก่อให้เกิดโรคสตีเวนส์ จอห์นสันได้บ่อย เช่น เพนิซิลลิน ( Penicillin ) , คาร์บามาซีปีน ( Carbamazepine ) , นาโปรเซน ( Naproxen ) , ไอบูโพรเฟน ( Ibuprofen ) , ไอโซเตรทติโนอิน ( Isotretinoin ) , ฟิไนโตอิน ( Phenytoin ) , เซอร์ทราลีน ( Sertraline ) , อัลไลพูรินอล ( Allopurinol ) หรือ เนวิราปีน ( Nevirapine ) เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีอีกหลายสาเหตุที่ก่อให้เกิดโรคนี้ได้ เช่น การติดเชื้อจากโรคไวรัสตับอักเสบเอ , เริม , งูสวัด , ติดเชื้อเอชไอวี หรือ ระบบภูมิคุ้มกันบกพร่อง ( โรค SLE , โรคพุ่มพวง ) หรือ เกิดจากการส่งต่อทางพันธุกรรมก็เป็นได้เช่นกัน
ถือว่าภาวะสตีเวนส์ จอห์นสันเป็นโรคที่อันตรายร้ายแรงที่ส่วนใหญ่น้อยคนจะรู้จักชื่อ หลายต่อหลายคนอาจคิดว่าคืออาการผื่นแพ้ธรรมดาทั่วไป โดยไม่คาดคิดว่าอาการเหล่านั้นอาจเป็นสัญญาณเตือนอันตรายที่ไม่คาดคิดจนกว่าจะรู้ตัวก็สายเกินไป วันนี้เราจึงมานำเสนอโรคนี้เพื่อให้ได้ศึกษารู้เท่าทันถึงสาเหตุกับอาการเบื้องต้น และจะได้รีบเข้าไปพบแพทย์เฉพาะทางเพื่อหาทางแก้ไขได้อย่างทันท่วงทีครับ